คำถาม : ทำไมมนุษย์ถึงมีความแตกต่างจากลิง?
เห็นหลายๆทฤษฎีว่ากันว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง
แต่อะไรที่บอกว่าคนต่างจากลิง
มาดูกัน...
ลิงกับคนระดับต่างกัน
ระดับในที่นี้หมายถึงตั้งแต่ระดับโครงสร้างร่างกาย ระดับอวัยวะ และระดับเซลล์
ผลที่เกิดจากความแตกต่างระหว่างระดับทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างคนกับลิงคือ
รูปร่างลักษณะ สังเกตความแตกต่างของรูร่างและรักษณะได้ชัดเจน เช่น รูปร่างหน้าตา สัดส่วนลำตัวและแขนขา รวมทั้งขนของลิงที่มากกว่าคน
พฤติกรรม และ ความคิด คนกับลิงต่างก็เป็นสัตว์สังคมเหมือนกัน คือคนอยู่รวมกันเป็นครอบครัว หมู่บ้าน ลิงก็อยู่กันเป็นฝูง และคนกันลิงต่างก็ต้องมีผู้นำเพื่อคอยชี้แนะทางปฏิบัติ และทางเอาตัวลอด แต่ความแตกต่างอยู่ที่ คนมีสามัญสัมนึก รู้และกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีความเสียสละมีคุณธรรม จริยะธรรม แต่ลิงเป็นสัตว์มีสันดาลดิบซึ่งเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเท่านั้น คือ มีความดุร้ายต่อกลุ่มอื่น หรือสัตว์ชนิดอื่น ใช้กำลังตัดสินทุกสิ่งในชีวิต มีการทำร้ายหรือ ฆ่าเพื่อความเป็นใหญ่และความอยู่รอด หรือกล่าวโดยรวมคือคมมีความคิดและพฤติกรรมที่สูงกว่าลิง
หากมองในระดับพันธุกรรมล่ะ
งานค้นคว้าวิจัย โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตรอนโต ศูนย์วิจัยด้านเซลล์และชีวเคมี โดย ศาสตราจารย์ Benjamin Blencowe , ลูกทีมและ John Calarcoนักศึกษาปริญญาโท พบว่าความแตกต่างนี้เกิดขึ้นจากการ splicing ของยีนก่อนที่จะได้เป็นโปรตีนออกมา พวกเขาพบว่า 6-8% ของการเกิด ในจุดที่สนใจในยีนของลิงต่างกับของคน และยีนที่พบว่าเกิดการ splicing ที่ต่างกับคนนี้ควบคุมกระบวนการสำคัญ ๆ หลายอย่าง เช่น การตอบสนองต่อเชื้อโรค ลักษระโครงส้าง Splicing เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในระดับของยีน ในเซลล์เล็ก ๆ มีนิวเคลียสอยู่ และในนิวเคลียสก็จะสร้างดีเอนเอขึ้นมา ดีเอนเอจะถอดรหัสได้เป็นสาย mRNA แล้วจะแปลรหัสเป็นโปรตีนต่อไป ตรงกระบวนการสร้างสาย mRNA นี้ที่แตกต่างกันในพวกโปรคาริโอต (แบคทีเรียและสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน) กับยูคาริโอต (สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าสองอย่างนั้น คนกับลิงก็เป็นพวกยูคาริโอต) ต่างกัน ส่วน Splicing เป็นกระบวนการที่ตัดเอาลำดับเบสบนสาย mRNA ส่วนที่ไม่มีคำสั่งให้แปลรหัสเป็นโปรตีนออกไป ศัพท์วิทยาศาสตร์เรียกว่า อินทรอน (Intron) ส่วนที่แปลรหัสเป็นโปรตีนได้เรียกว่า เอกซอน (Exon) การเกิด Splicing จะตัดอินทรอนออก ตัดได้หลายที่ แตกต่างกันไปในแต่ละสิ่งมีชีวิต แล้วเชื่อมเอาเอกซอนเข้าด้วยกัน แล้วจะเหลือแต่ส่วนที่แปลรหัสเป็นโปรตีน Splicing นี่เองที่เขาพบว่าเกิดต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างคนกับลิง
มาดูชิมแพนซีที่ว่าฉลาดสุดๆกันบ้าง
เรื่อง DNA ของมนุษย์กับชิมแพนซีเหมือนกันกว่า 98% นั้นเป็นอะไรที่รู้กันมานานแล้ว
จาก Chimpanzee genome project ได้เสร็จสิ้นเมื่อปี 2005 ผลคือไม่ว่าจะมองยังไงเราก็
เหมือนกัน 98% จริงๆ
แต่คำตอบคือ หลักฐานทาง DNA ชี้ชัดว่าความคล้ายนั้นเกิดจากการสืบทอดทางพันธุ
กรรมโดยตรง และพยานในคดีนี้ก็คือโครโมโซมของมนุษย์นั่นเอง
โครโมโซมคืออะไร...ลองดูตามรูปนี้ก่อน
โครโมโซมประกอบด้วยสามส่วนคือหัวและท้ายที่เรียกว่า Telomereและจุดเชื่อมตรงกลางชื่อ
Centromere ส่วนโครงสร้างภายในเป็นอะไรนั้น สังเกตุดูตรงที่เป็นเส้นขดๆ เมื่อยืดออกมาก็จะ
เห็น DNA
พืชและสัตว์ทุกชนิดมีจำนวน,ขนาดโครโมโซมแตกต่างกันไปตามเส้นทางที่ตนเดิน สำหรับมนุษย์คือ 23 คู่ ส่วนชิมแพนซีกับลิงอื่นๆมีตั้ง 24 แน่ะ
เทียบแล้วแทบเหมือนกันเป๊ะ แต่ดูเหมือนขาดอะไรไปอย่าง
เมื่อสังเกตุดีดีจะเห็นโครโมโซมหายไปหนึ่งคู่ DNA อาจคล้ายกันจริง แต่โครโมโซมไม่
คำตอบของปริศนาอยู่ที่โครโมโซมคู่ 2
เพราะเมื่อนักวิทยาศาสตร์อ่านรหัส DNA ของมนุษย์กับลิงเทียบกันก็พบว่า โครโมโซมคู่ 2 ของคนเหมือนจะมีต้นกำเนิดจากโครโมโซม 2A และ 2B ของชิมแพนซีที่แปะติดกันด้วยปรากฏการณ์ธรรมชาติเรียกว่า Chromosome Fusion ไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งถ้าเป็นจริงก็แสดงว่าโครโมโซมมนุษย์ยังมีเท่ากับลิง
โครโมโซมต้องมีส่วนหัวท้าย(Telomere)กับส่วนกลาง(Centromere) โครโมโซม 2 ของมนุษย์มี Telomere แต่ชิมแพนซีไปหลงอยู่ตรงกลาง(จุดเชื่อม) แทนที่จะอยู่ปลายเหมือนอย่างปกติ
ซึ่งก็ปรากฏดังนี้
ไม่ใช่แค่นั้น นักวิทยาศาสตร์ยังพบ Centromere ชิมแพนซีสองอันลอยเท้งเต้งอยู่ตรงจุด 1/4 กับ 3/4 ของโครโมโซมคู่ 2 ของมนุษย์อีกต่างหาก
บทสรุป
เป็นอันพิสูจน์ได้ว่าคนกับลิงมีบรรพบุรุษร่วมกันจริงๆ แต่ที่โครโมโซมต่างกันนิดหน่อย เพราะการรวมตัวของโครโมโซมเกิดขึ้นหลังเราแยกสายพันธุ์กันพักหนึ่งจึงเห็นโครโมโซมมีลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปนั้นเอง
ข้อมูลที่เป็นภาษาอังกฤษ
|